เป็นปรมาจารย์หรือเป็นเจ้าสำนัก
เปรียบกับหนังจีนกำลังภายใน การทำงานนั้นเหมือนการฝึกวิทยายุทธ เลย คนเราจะเป็นจอมยุทธ ต้องมีกำลังภายใน กระบวนท่า และประสบการณ์ในยุทธจักร การทำงาน กำลังภายใน คือ ทฤษฎีที่เราเรียนมา ต้องหมั่นสั่งสม อ่านสิ่งใหม่ๆ ให้แตกฉานออกไป ฝึกวันละนิดให้แข็งแกร่ง ขึ้นเรื่อย กระบวนท่า คือ หลักการประยุกต์ที่เราเรียนมา ถ้าไม่มีกระบวนท่า กำลังภายในก็ใช้ไม่ออก ถ้ามีกระบวนท่า กำลังภายในอ่อนแอ ก็ใช้กระบวนท่าสุดยอดไม่ออก คนเรา แก่ทฤษฎี ไม่เคยหัดประยุกต์ ก็ได้แต่คุยๆ ไปงั้น ดูดีไม่มีประโยชน์ พวก ประยุกต์ ไม่มีทฤษฎี ก็แก้ปัญหาซับซ้อนไม่ได้ ทำของยากไม่ได้ มันเสริมกัน ทีนี้ ประสบการณ์นี่สำคัญ ทำให้เรา ทำงานเก่ง เพราะในโลกความเป็นจริง ประสบการณ์ทำให้เรา ทำงานเก่งจากการเรียนรู้และเจ็บตัวมาเยอะ คนจะเก่งต้อง จับงานยากท้าทาย ถ้าเป็นจอมยุทธประหารสุกร หลอกฆ่าหมูน้อยไปเรื่อย ไหนเลยจะเป็นยอดฝีมือ ดังนั้นจอมยุทธ ต้องท่องยุทธจักร สังหารมารเก่งๆ ประลองกับยอดยุทธด้วยกันบ่อยๆ ส่วนคนทำงาน ก็ต้องวิ่งหางานยาก งานท้าทายแลกเปลี่ยนความรู้กับคนมีฝีมือ ด้วยกันบ่อยๆ ก็จะเป็นคนจริงในยุทธจักรการทำงานได้ สุดท้าย ยอดยุทธในแผ่นดินจะมีสองเส้นทาง คือ จะเป็น ปรมาจารย์ หรือ เป็น เจ้าสำนัก สองแบบนี่ต่างกันอย่างไร
ปรมาจารย์ คือ นักวิชาการที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ งมงายในวิชา พัฒนาฝีมือ แต่ที่สำคัญ คือ รับศิษย์เก่งๆ แล้ว บัญญัติ วิชาใหม่ๆ เก่งหน่อยสายทฤษฎี ก็คิด กำลังภายใน หรือ คัมภีร์ ทฤษฎีใหม่ บางที ก็ คิด กระบวนท่าใหม่ให้ได้ ไอ้การคิดกระบวนท่าใหม่นี่ ต้องใ ฝึกถึงต้นรากวิชา เข้าใจ ถ่องแท้ ไม่ถูกผูกมัดด้วยกระบวนท่า ใช้สำนึกกระบี่ หรือ สำนึกวิทยายุทธได้ กระบวนท่าที่บัญญํติมา ก็ให้ลูกศิษย์ที่ยังเข้าไม่ถึงสำนึกกระบี่ รำรำไป ถ้า ศิษย์เก่งพอ ก็จะทิ้งกระบวนท่าเหล่านั้น ได้สำนึกวิชา เป็นปรมาจารย์เองได้เหมือนกัน ในสาขาที่ผมทำงาน เจอ ยอดคน ที่ ถึงขั้นสำนึกกระบี่ หลายคนแล้ว จากทั่วโลก พวกนี้ คิดอะไร เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง งดงามทั้งนั้น คนหนึ่งที่เข้าใจเรื่องนี้ คือ Tao Tao Tao เคยคุยกันหัวข้อนี้อย่างสนุกมาก ท่านเป็นคนหนึ่งที่ ฝึกสำนึกกระบี่ได้ และบัญญัติ เก้ากระบวนท่ากระบี่ของท่านเองในการทำ paper
ทีนี้เจ้าสำนักละ เจ้าสำนัก คิอ พวก ยอดฝีมือ ที่ เอาดีทาง เป็น community leader ชอบกลยุทธ ตั้งสำนัก รับศิษย์ จำนวนมาก ออกไป ประชุมเจ้าสำนักด้วยกัน คิด เปลี่ยนแปลงยุทธจักร พลังยุทธของเจ้าสำนัก บางคนก็เป็นปรมาจารย์ด้วย บางคนก็ไม่ถึงแต่ก็ได้ระดับสำนึกกระบี่อยู่เหมือนกัน แต่ไม่ได้ ลุ่มหลงวิชาการ อยากออกไปผดุงคุณธรรม ช่วยคนในใต้หล้า ทิ้งเรื่อง ส่วนตัว ทำเรื่องส่วนรวม เพื่อยุทธจักรทั้งมวล พวกนี้ผมก็เจอบ่อย น่านับถือไปอีกแบบ เจ้าสำนักจะคิดอะไรใหม่ๆ ขับเคลื่อนองค์กร บริหารจัดการ แก้ปัญหา ผลักดันให้ องค์กรเคลื่อนไปข้างหน้า สร้างกลยุทธ ทำให้การทำงานสนุกสนาน ได้ผลดี
สุดท้ายแก่ๆ กันแล้วไปไหน สุดยอดฝีมือ บางส่วนจะทิ้งกระบี่ ปลีกวิเวก หายไป บางส่วนจะมาในรูป ผู้อาวุโส ประจำสำนัก บ้างก็เป็นผู้คุ้มกฎ บ้างก็สอนวิขา บ้างก็มาช่วยออกไอเดียพัฒนาสำนัก เราจะเจอท่านอยู่ในกรรมการ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ นั่งยิ้มๆ จิบกาแฟบ้าง ชาบ้าง ช่วยเอาประสบการณ์มาแก้ปัญหาให้น้องน้อง ทำงานง่ายขึ้น ผมเจอท่านเหล่านี้ในองค์กร เสมอๆ ดีใจที่ท่านยังไม่ทิ้งเรา
สำหรับผม ตอนนี้ ใช้ชีวิตเดินสายเป็นยอดยุทธเร่ร่อน ไม่ได้คิดว่าตัวเองเก่งอะไร แค่ ใช้วิชายาจก บ้าง หมัดเมาบ้างท่องยุทธจักร ไปเรื่อย เจ็บตัวเจ็บหัวใจก็เยอะ แต่ ก็สนุกดีครับ ชีวิตคือ ทางเลือก ขอให้ได้ใช้ชีวิตในยุทธจักรอย่างสมใจก็พอ